เมนู

ทราบว่า ท่านพระสุธาปิณฑิยเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วย ประ-
การฉะนี้แล.
จบสุธาปิณฑิยเถราปทาน

สุธาวรรคที่ 10


91. อรรถกถาสุธาปิณฑิยเถราปทาน


อปทานของท่านพระสุธาปิณฑิยเถระ มีคำเริ่มต้นว่า ปูชารเห
ปูชยโต
ดังนี้.
พระเถระแม้นี้ ได้บำเพ็ญกุศลสนภารในพระพุทธเจ้าองค์ก่อน ๆ
สั่งสมบุญทั้งหลายอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานในภพนั้น ๆ ในกาล
แห่งพระพุทธเจ้าพระนามว่าสิทธัตถะ เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้ายังทรง
พระชนม์อยู่ ไม่สามารถจะบำเพ็ญบุญได้ เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้า
ปรินิพพานแล้ว เมื่อมหาชนพากันก่อพระเจดีย์เพื่อบรรจุพระธาตุของ
พระผู้มีพระภาคเจ้า ท่านใส่ก้อนปูนขาวก่อเจดีย์นั้น. ด้วยบุญกรรมนั้น
ท่านไม่เห็นอบาย 4 ในระหว่างนี้ จำเดิมแต่กัป 94 เสวยเทวสมบัติ
ในพุทธุปบาทกาลนี้ บังเกิดในเรือนมีตระกูลแห่งหนึ่ง บรรลุนิติภาวะแล้ว
เลื่อมใสในพระศาสดา บวชแล้วไม่นาน ก็เป็นพระอรหันต์.
ครั้นภายหลัง ท่านระลึกถึงบุพกรรมของตน เกิดโสมนัส เมื่อจะ
ประกาศปุพพจริตาปทานของตน จึงกล่าวคำมีอาทิว่า ปูชารเห ปูชยโต
ดังนี้
ในคำเหล่านี้ มีอธิบายดังต่อไปนี้. พระพุทธเจ้า พระปัจเจก-

พุทธเจ้า พระอริยสาวก อาจารย์ อุปัชฌาย์ มารดา บิดา และครู
เป็นต้น ชื่อว่าปูชารหบุคคล (บุคคลที่ควรบูชา) ใคร ๆ ไม่สามารถจะทำ
การนับส่วนแห่งบุญที่บุคคลบูชาแล้วในปูชารหบุคคลเหล่านั้น ด้วยสักการะ
มีระเบียบดอกไม้ดอกปทุม ผ้า เครื่องอาภรณ์และปัจจัย 4 เป็นต้น ด้วย
ทรัพย์ตั้งแสนเป็นต้น แม้ด้วยอานุภาพอันใหญ่ได้ มิใช่เพียงบูชาพระ-
พุทธเจ้าเป็นต้น ผู้ยังทรงพระชนม์อยู่อย่างเดียวเท่านั้น แม้บูชาใน
พระเจดีย์ พระปฏิมา และต้นโพธิ์เป็นต้นของพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้แม้
ปรินิพพานไปแล้ว ก็นัยนี้เหมือนกัน
เพื่อจะแสดงเรื่องนั้น จึงกล่าวคำมีอาทิว่า จตุนฺนมฺปิ จ ทีปานํ ดังนี้.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า จตุนฺนมฺปิ ทีปานํ ความว่า พึงรวม
ทวีปทั้ง 4 กล่าวคือ ชมพูทวีป อมรโคยานทวีป อุตตรกุรุทวีป และ
บุพพวิเทหทวีป และทวีปน้อย 2 ,000 อันรวมอยู่ในทวีปทั้ง 4 นั้นเข้า
เป็นอันเดียวกัน แล้วพึงกระทำความอิสระ คือความเป็นพระราชา
ผู้จักรพรรดิในห้องแห่งจักรวาลทั้งสิ้น. บทว่า เอกิสฺสา ปูชนาเยตํ
ความว่า นี้เป็นทรัพย์ทั้งสิ้น มีรัตนะ 7 เป็นต้น ในชมพูทวีปทั้งสิ้น
แห่งการบูชาอันหนึ่ง ที่กระทำไว้ในห้องพระธาตุคือพระเจดีย์. บทว่า
กลํ นาคฺฆติ โสฬสึ ความว่า ไม่ถึงส่วนที่ 16 ที่จำแนกไว้ 16 ครั้ง
แห่งการบูชาที่กระทำไว้ในพระเจดีย์.
บทว่า สิทฺธตฺถสฺส ฯ เป ฯ ผลิตนฺตเร ความว่า ในระหว่าง คือ
ในท่ามกลางแห่งแผ่นอิฐทั้งสองที่กำหนด ที่มหาชนพากันฉาบด้วยปูนขาว

ที่ห้องเป็นที่บรรจุพระธาตุ ในพระเจดีย์ของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า
สิทธัตถะ ผู้เลิศประเสริฐกว่านระ. อีกอย่างหนึ่งเชื่อมความว่า เราได้ใส่
ก้อนปูนขาวลงในระหว่างที่เป็นที่ถวายดอกไม้. คำที่เหลือในบททั้งปวงมี
อรรถตื้นทั้งนั้นแล.
จบอรรถกถาสุธาปิณฑิยเถราปทาน

สุปีฐิยเถราปทานที่ 2 (92)


ว่าด้วยผลแห่งการถวายตั้ง


[94] เรายินดีมีจิตโสมนัส ได้ถวายตั่งอันสวยงามแด่พระ-
พุทธเจ้าพระนามว่าติสสะ ผู้เป็นนาถะของโลก เป็นเผ่าพันธุ์
พระอาทิตย์.

ในกัปที่ 38 แต่กัปนี้ เราได้เป็นพระราชาพระนามว่า
มหารุจิ โภคสมบัติอันไพบูลย์และที่นอนมิใช่น้อย ได้มี
แล้วแก่เรา เรามีใจผ่องใสได้ถวายตั่งแด่พระพุทธเจ้า ย่อม
เสวยกรรมของตน ที่ตนได้ทำไว้ดีแล้วในกาลก่อน.

ในกัปที่ 92 แต่กัปนี้ เราได้ถวายตั่งใดในกาลนั้น ด้วย
กรรมนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการถวายตั่ง.

ในกัปที่ 38 แต่กัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 3 ครั้ง
ครั้งที่ 1 พระนามว่ารุจิ ครั้งที่ 2 พระนามว่าอุปรุจิ และ
ครั้งที่ 3 พระนามว่ามหารุจิ.

คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 และ
อภิญญา 6 เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า
เราได้ทำเสร็จแล้ว
ดังนี้
ทราบว่า ท่านพระสุปีฐิยเถระได้กล่าวคาถาเหล่านั้น ด้วยประการ
ฉะนี้แล.
จบสุปีฐิยเถราปทาน